วิธีทำข้าวไม่ซาวน้ำให้อร่อย

สำหรับสาวกข้าวญี่ปุ่น มาทางนี้เลย! เราขอแนะนำ วิธีการหุงข้าวญี่ปุ่นชนิดไม่ต้องซาวข้าว รับประกันความอร่อย จากผู้เชี่ยวชาญด้านข้าวโดยเฉพาะ

สิ่งที่ต้องเตรียม 1

หม้อหุงข้าวที่มี
โหมดสำหรับหุงข้าวญี่ปุ่น

ความอร่อยของข้าว ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของหม้อหุงข้าวเป็นสำคัญ โดยเฉพาะข้าวญี่ปุ่น ความอร่อยอาจแตกต่างกันหากใช้หม้อหุงข้าวที่ต่างกัน ดังนั้น จึงขอแนะนำให้ใช้หม้อหุงข้าวที่มีโหมดการหุงข้าวญี่ปุ่น เพื่อให้คุณได้สัมผัสความอร่อยตามแบบฉบับของข้าวญี่ปุ่นอย่างแท้จริง

สิ่งที่ต้องเตรียม 2

น้ำแร่

เพื่อให้ข้าวญี่ปุ่นอร่อยมากขึ้น ขอแนะนำให้ใช้น้ำแร่ในการหุงข้าว จะทำให้ข้าวอร่อย และเหนียวนุ่มมากขึ้น (หากไม่สะดวกใช้น้ำแร่ สามารถใช้น้ำสะอาดได้)

สิ่งที่ต้องเตรียม 3

กระชอนพลาสติก

แนะนำให้ใช้ภาชนะที่ทำจากพลาสติกเพื่อป้องกันข้าวแตกและการดูดสี

ระดับในการแนะนำ ★★★

วิธีการหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อย
ด้วยการใช้หม้อหุงข้าวที่มี
โหมดหุงข้าวเร็ว

1ใช้ปริมาณข้าวอย่างถูกต้อง

ใช้เครื่องชั่งในห้องครัวเพื่อวัดปริมาณข้าวอย่างแม่นยำ

2ล้างข้าวอย่างรวดเร็ว

เตรียมน้ำแร่ (หรือน้ำสะอาด) ใส่ลงไปในกะละมังหรือชามที่มีข้าวสารญี่ปุ่นอยู่ ใช้มือคนอย่างรวดเร็ว จากนั้นเทน้ำออกทันที โดยกรองข้าวด้วยกระชอนพลาสติก สิ่งสำคัญคือ ข้าวจะดูดน้ำครั้งแรกไว้มากที่สุด จึงจำเป็นต้องรีบล้างและสะเด็ดน้ำอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากเป็นข้าวญี่ปุ่นชนิดไม่ต้องซาวน้ำ การล้างข้าวอย่างรวดเร็วก็เพียงพอแล้ว

3ใส่น้ำในปริมาณที่ถูกต้อง

ควรเติมน้ำในปริมาณ 2.4 เท่าของปริมาณข้าว
ตัวอย่าง: หากต้องการหุงข้าว 150 กรัม ข้าว 150 กรัม * 2.4 = 360 กรัม
ดังนั้นต้องเติมน้ำในปริมาณถึง 360 กรัม

4แช่ข้าวในตู้เย็นเป็นเวลา
60 นาที

การแช่ข้าวในตู้เย็นนานถึง 60 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำอย่างช้าๆ ส่งผลให้ข้าวที่หุงขึ้นมามีความอิ่มตัวและเงางาม

5ทำให้ข้าวและน้ำเรียบเสมอกัน

ควรเขย่าหรือเคาะหม้อให้ข้าวเรียบเสมอน้ำ เมื่อข้าวสุกก็จะทำให้ข้าวฟูและมีความเรียบเสมอกัน

6ใช้โหมด “โหมดหุงข้าวเร็ว”

หากลองกดเม็ดข้าวสารญี่ปุ่นด้วยนิ้ว แล้วแตกเป็นชิ้นเล็กๆ แสดงว่าข้าวแช่น้ำเพียงพอแล้ว สามารถเริ่มหุงข้าวได้เลย ที่สำคัญข้าวที่ผ่านการแช่น้ำแล้ว ควรหุงด้วยโหมดหุงข้าวเร็ว

7เมื่อข้าวสุกแล้วให้ซุยข้าวเบาๆ

เมื่อข้าวสุกแล้ว ให้เปิดฝาหม้อทันที และใช้ทัพพีซุยข้าวเบาๆ เพื่อไม่ให้เม็ดข้าวเสียหาย โดยซุยจากด้านล่างขึ้นมา เพื่อให้สัมผัสอากาศและกำจัดความชื้นส่วนเกินออก จะช่วยให้ข้าวมีเนื้อสัมผัสที่ดีขึ้นได้

8รอ 10 นาที เพื่อให้ข้าวนุ่มฟู

หลังจากซุยข้าวแล้ว รอให้ความชื้นจากไอน้ำดูดซึมเข้าไปในข้าวประมาณ 10 นาที ขั้นตอนนี้ เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่จะทำให้เนื้อข้าวฟู และเนียนนุ่ม

ระดับในการแนะนำ ★★

หม้อหุงข้าวที่ไม่มี
โหมดหุงข้าวเร็ว

1ใช้ปริมาณข้าวอย่างถูกต้อง

ใช้ถ้วยตวงข้าว เพื่อความแม่นยำ

2ล้างข้าวอย่างรวดเร็ว

เตรียมน้ำแร่ (หรือน้ำสะอาด) ใส่ลงไปในกะละมังหรือชามที่มีข้าวสารญี่ปุ่นอยู่ ใช้มือคนอย่างรวดเร็ว จากนั้นเทน้ำออกทันที โดยกรองข้าวด้วยกระชอนพลาสติก สิ่งสำคัญคือ ข้าวจะดูดน้ำครั้งแรกไว้มากที่สุด จึงจำเป็นต้องรีบล้างและสะเด็ดน้ำอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากเป็นข้าวญี่ปุ่นชนิดไม่ต้องซาวน้ำ การล้างข้าวอย่างรวดเร็วก็เพียงพอแล้ว

3เติมน้ำ 1 ถ้วย

ใช้ถ้วยเดียวกันกับที่ใช้ในขั้นตอนที่ 1 และเติมน้ำจนเต็มถ้วย

4แช่ข้าวในตู้เย็นเป็นเวลา 30 นาที

แช่ข้าวในตู้เย็นเป็นเวลา 30 นาทีหรือมากกว่า

5ทำให้ข้าวและน้ำเรียบเสมอกัน

ควรเขย่าหรือเคาะหม้อให้ข้าวเรียบเสมอน้ำ เมื่อข้าวสุกก็จะทำให้ข้าวฟูและมีความเรียบเสมอกัน

6หุงข้าวด้วย “โหมดปกติ”

หลังจากแช่น้ำเรียบร้อยแล้ว กดที่เม็ดข้าวเพื่อเช็คว่าข้าวพร้อมหุง จากนั้นนำข้าวไปหุงได้เลย โดยเลือกโหมดหุงข้าวแบบปกติ

7เมื่อข้าวสุกแล้วให้ซุยข้าวเบาๆ

เมื่อข้าวสุกแล้ว ให้เปิดฝาหม้อทันที และใช้ทัพพีซุยข้าวเบาๆ เพื่อไม่ให้เม็ดข้าวเสียหาย โดยซุยจากด้านล่างขึ้นมา เพื่อให้สัมผัสอากาศและกำจัดความชื้นส่วนเกินออก จะช่วยให้ข้าวมีเนื้อสัมผัสที่ดีขึ้นได้

8รอ 10 นาที เพื่อให้ข้าวนุ่มฟู

หลังจากซุยข้าวแล้ว รอให้ความชื้นจากไอน้ำดูดซึมเข้าไปในข้าวประมาณ 10 นาที ขั้นตอนนี้ เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่จะทำให้เนื้อข้าวฟู และเนียนนุ่ม

ระดับในการแนะนำ ★

วิธีการหุงข้าวญี่ปุ่น
สำหรับหม้อหุงที่ไม่มี
โหมดสำหรับข้าวญี่ปุ่น
* ในการหุงข้าวญี่ปุ่นให้อร่อยควรใช้ตัวเลือกโหมดข้าวญี่ปุ่นโดยเฉพาะ แต่ถ้าหากไม่มีโหมดนั้น สิ่งสำคัญคือต้องกำหนดปริมาณให้เหมาะสำหรับความจุของหม้อหุงข้าว
ควรใส่ข้าวในปริมาณ 60 – 80% ของหม้อหุงข้าว
(เช่น ถ้าต้องการหุงข้าวให้ได้ 3 ถ้วย ควรใช้ข้าว 270 – 360 กรัมในการหุง)

1ใช้ปริมาณข้าวอย่างถูกต้อง

ใช้ปริมาณข้าวที่ถูกต้อง
ใส่ข้าวลงในหม้อหุงข้าวประมาณ 6-8 ส่วนของปริมาณทั้งหมด
(เช่น ถ้าต้องการหุงข้าวให้ได้ 3 ถ้วย ควรใช้ข้าว 270 – 360 กรัมในการหุง)

2ล้างข้าวอย่างรวดเร็ว

เตรียมน้ำแร่ (หรือน้ำสะอาด) ใส่ลงไปในกะละมังหรือชามที่มีข้าวสารญี่ปุ่นอยู่ ใช้มือคนอย่างรวดเร็ว จากนั้นเทน้ำออกทันที โดยกรองข้าวด้วยกระชอนพลาสติก สิ่งสำคัญคือ ข้าวจะดูดน้ำครั้งแรกไว้มากที่สุด จึงจำเป็นต้องรีบล้างและสะเด็ดน้ำอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากเป็นข้าวญี่ปุ่นชนิดไม่ต้องซาวน้ำ การล้างข้าวอย่างรวดเร็วก็เพียงพอแล้ว

3ใส่น้ำในปริมาณที่ถูกต้อง

ควรเติมน้ำในปริมาณ 2.4 เท่าของปริมาณข้าว
ตัวอย่าง: หากต้องการหุงข้าว 150 กรัม ข้าว 150 กรัม * 2.4 = 360 กรัม
ดังนั้นต้องเติมน้ำในปริมาณถึง 360 กรัม

4แช่ข้าวในตู้เย็นเป็นเวลา
60 นาที

การแช่ข้าวในตู้เย็นนานถึง 60 นาที เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำอย่างช้าๆ ส่งผลให้ข้าวที่หุงขึ้นมามีความอิ่มตัวและเงางาม

5ทำให้ข้าวและน้ำเรียบเสมอกัน

ควรเขย่าหรือเคาะหม้อให้ข้าวเรียบเสมอน้ำ เมื่อข้าวสุกก็จะทำให้ข้าวฟูและมีความเรียบเสมอกัน

6ใช้โหมด “โหมดหุงข้าวเร็ว”

หากลองกดเม็ดข้าวสารญี่ปุ่นด้วยนิ้ว แล้วแตกเป็นชิ้นเล็กๆ แสดงว่าข้าวแช่น้ำเพียงพอแล้ว สามารถเริ่มหุงข้าวได้เลย ที่สำคัญข้าวที่ผ่านการแช่น้ำแล้ว ควรหุงด้วยโหมดหุงข้าวเร็ว

7เมื่อข้าวสุกแล้วให้ซุยข้าวเบาๆ

เมื่อข้าวสุกแล้ว ให้เปิดฝาหม้อทันที และใช้ทัพพีซุยข้าวเบาๆ เพื่อไม่ให้เม็ดข้าวเสียหาย โดยซุยจากด้านล่างขึ้นมา เพื่อให้สัมผัสอากาศและกำจัดความชื้นส่วนเกินออก จะช่วยให้ข้าวมีเนื้อสัมผัสที่ดีขึ้นได้

8รอ 10 นาที เพื่อให้ข้าวนุ่มฟู

หลังจากซุยข้าวแล้ว รอให้ความชื้นจากไอน้ำดูดซึมเข้าไปในข้าวประมาณ 10 นาที ขั้นตอนนี้ เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่จะทำให้เนื้อข้าวฟู และเนียนนุ่ม
การใส่น้ำแข็งก่อนหุงจะทำให้ข้าวญี่ปุ่นอร่อยขึ้น น้ำแข็งจะทำให้ระดับความร้อนของน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ แป้งจะถูกย่อยและเปลี่ยนเป็นน้ำตาล จึงทำให้ข้าวญี่ปุ่นมีรสชาติหวานอร่อย

เติมน้ำแข็ง

เติมน้ำแข็ง 50-100 กรัม ต่อข้าว 150 กรัม

สะเด็ดน้ำ

เอาน้ำออกเท่ากับน้ำแข็งที่เติม หากใส่น้ำแข็ง 50 กรัม ก็ให้เอาน้ำออก 50 กรัม
หลังจากนั้นให้เริ่มหุงข้าวตามวิธีที่คุณชื่นชอบตามข้างต้น